ทริปนี้เกิดขึ้นเพราะภูมิแพ้กรุงเทพฯ กำเริบอีกครั้ง เป้าหมายของทริปนี้ คือ เชียงใหม่ มีเวลา 4 วัน 3 คืน (19-22 สิงหาคม 2560) เดินทางช่วงเช้าเราตั้งใจเลือกที่นั่งฝั่งเจอแดด อยากได้รูปเมฆกับอาทิตย์ แต่ก็ได้แค่นี้



ซนกับมวลเมฆได้ 1 ชั่วโมงก็ถึงเชียงใหม่แล้ว จากสนามบินเราชอบเดินเสพเชียงใหม่ในมุมที่เราชอบ จุดหมายปลายทางอยู่ที่คิวรถตู้ลำพูนที่กาดหลวง แต่เราไปแม่กำปอง ถามมาแล้วเป็นวินเดียวกัน เส้นทางที่เลือกใช้ประจำจะเข้าถนนวัวลาย ทุกครั้งที่มีโอกาสก็จะเข้าวัดศรีสุพรรณ มาชื่นชมอุโบสถเงินหลังแรกของโลก




มาเช้าๆ คนน้อยจนได้รูปที่อยากได้


เห็นสภาพหลังตัวเองที่เปียกเพราะแบกเป้เดินซนไปทั่ว มีเวลาไม่มากเราต้องถึงกาดหลวงก่อน 11:40 ออกเดินต่อมาเรื่อยๆ ถึงแล้วคิวรถลำพูนที่กาดหลวง สำหรับการเดินทางไปแม่กำปองด้วยรถตู้ทางคิวรถอยากให้ทำการจองล่วงหน้า เพราะจะได้ประสานงานรถของชุมชนลงมารับ รอบรถตามไปดูที่เพจได้เลย https://www.facebook.com/Van.Hotsprings/


จองและโอนเงินเรียบร้อยจะได้ตั๋วขึ้นรถหน้าตาประมาณนี้ ไม่ต้องปริ้นโชว์มือถือได้ ค่าโดยสาร 150 บาทต่อคนต่อเที่ยว (ไป-กลับ 300 บาท)



พอรถมาคนขับก็จะเรียกคนจองขึ้นรถก่อน จากนั้นก็ค่อยให้คนไม่จองและคนที่ลงน้ำพุร้อนสันกำแพงขึ้น เราไปวันเสาร์คนแน่นรถเลย เที่ยงครึ่งก็ถึงจุดเปลี่ยนรถ หน้าตารถที่จะพาไปส่งที่แม่กำปองเป็นแบบนี้ นั่งสบายกันเลย (ไปเอารูปมาจากในเพจของรถตู้ พอดีเราแบตหมดไม่ได้ถ่าย)


ใช้เวลากันอีก 15 นาที ก็ถึงโรงเรียนแม่กำปอง กำลังจะออกเดินเพื่อไปที่พัก พี่ๆ แถวนั้นบอกไม่ต้องเดินขึ้นสองแถวไปเลย พี่คนขับต้องผ่านที่พักเราพอดี มารอบนี้เราเลือกนอนเฮือนอุ้ย เพราะเป็นที่เดียวใน 5 แห่งที่เราไปคนเดียวแล้วไม่บวกเพิ่ม ที่พักพร้อมอาหารเช้า 550 บาทต่อคน https://www.facebook.com/HuanouiHome/

เราได้พักห้องพักใหม่ ที่นอนนุ่ม หมอนไม่แข็ง มีทีวี ตู้เย็น กาน้ำร้อน กาแฟ โอวัลติน น้ำดื่ม ห้องน้ำเป็นชักโครก เครื่องทำน้ำอุ่นเป็นระบบแก๊ส รูปลั๊ก 7 รู wifi แรงดี




คุยกับคุณตู่เจ้าของเฮือนอุ้ยผ่าน inbox ขอรหัส wifi ได้รับการดูแลดีมาก สอบถามเราตลอดว่าต้องการอะไรเพิ่มเติมไหม ผ้าห่มพอไหม จนเราเกรงใจเอง พอเก็บของล้างหน้าเสร็จก็รีบออกซน เรามีเวลา 20 ชั่วโมงเท่านั้น (รวมนอนด้วย) จุดแรกที่จะไปซนก็ที่วัดคันธาพฤกษาหรือที่รู้จักกันว่าวัดแม่กำปอง ที่นี่มีอุโบสถกลางน้ำ วิหารไม้สักเก่าแก่ที่หลังคาเต็มไปด้วยตะไคร่น้ำ มอสและเฟิร์น



กราบพระในวิหารไม้สักและอุโบสถกลางน้ำกันก่อนซน



ลุยน้ำเย็นๆ มาถ่ายรูปน้ำตกคันธาพฤกษ์ไม้หอม แช่เพลินมากๆ


เดินมาอีกด้านของวิหารไม้สักจะพบพระธาตุเจดีย์



ออกจากวัดก็มาเสพหมู่บ้านแม่กำปอง มาช่วงฝนก็จะเงียบสงบกว่าฤดูหนาวมากๆ หลายอย่างที่นี่เปลี่ยนไปตามวิถีของนักท่องเที่ยว แต่ก็ดีใจที่ได้ยินว่าคนในหมู่บ้านแม่กำปองยังเข้มแข็งที่ไม่ยอมให้นายทุนเข้ามาเปลี่ยนแปลงที่นี่ ท่องเที่ยววิถีชุมชนก็ต้องคนในชุมชนบริหาร จัดการ และได้ประโยชน์จากการทำท่องเที่ยว





รอบก่อนเรานอนบ้านหลังนี้ตอนนี้กลายเป็นโรงคั่วกาแฟและร้านกาแฟแล้ว



เดินย้อนกลับมาทางที่พักเพื่อไปร้านกาแฟชมนกชมไม้ เดินตัดจากที่พักไปแค่ 150 เมตร แต่ทางชันเล่นเอาเหงื่อออกเลย มาร้านเขาแล้วก็ต้องชิม ต้องชมว่ากาแฟใช้ได้ พายดีเลย ค่ากาแฟกับพาย 115 บาท วิวฟรี




รูปนี้เราได้สาวสวยถ่ายให้ น้องก็กลัวจะไม่สวย แต่เราว่าดีมากแล้ว ขอบคุณอีกครั้ง



กำลังจะไปน้ำตกแม่กำปองต่อโดยใช้ทางลัดที่มีป้ายเล็กๆ บอกไว้ แต่พอมาถึงทางแยกฝนลงเม็ดหนักเลย กลับที่พักใกล้กว่า ก็ต้องมาหลบฝนจิบชา (พกมาเอง) ฟังเสียงฝนกัน



ฝนหยุดก็เกือบ 6 โมงเย็นแล้ว ออกมาซนรอบเย็นและหาของกินด้วย ผู้คนที่พลุกพล่านกลับเข้าเมืองกันหมดแล้ว แม่กำปองเงียบสงบมาก วิถีปกติที่คนในชุมชนออกมาซื้อกับข้าว ซื้อเครื่องดื่มไปเปิดวงเสวนาก็มีให้เห็นด้วย เก็บภาพถนนช่วงไร้ผู้คนก่อน



มื้อเย็นเรากลับมาร้านเดิมที่เคยกิน รอบนี้ทำร้านใหม่สวยขึ้น ราคาอาหารเพิ่มขึ้น 5 บาท แต่ปริมาณเยอะเหมือนเดิม กะเพราใส่หอมใหญ่กลมกล่อมดี เราชอบรสมือแบบนี้ จัดจ้านแต่ไม่เผ็ดมาก จานนี้ 45 บาท



เดินต่อมาก็เจอไข่ปามเห็ดหอม 20 บาท มีหลายร้านนะ เลือกตามชอบได้เลย



อิ่มมากแล้วก็เดินกลับที่พัก เราชอบโค้งนี้มาก แต่ไม่กล้าตั้งมือถือถ่าย ทางโค้งลงเขามันอันตรายเกินกว่าจะฮิป


เข้าห้องพักปุ๊บฝนกระหน่ำปั๊บ คืนนี้นอนฟังเสียงฝนสบายอารมณ์

เช้าวันรุ่งขึ้น รีบตื่นเร็วหน่อย ออกมาฟินกับความสงบของแม่กำปอง เราชอบยามเช้าแบบนี้ มาทุกครั้งก็ต้องออกมาซนกลางถนนแบบไม่ต้องกลัวรถชน เพราะรถนักท่องเที่ยวยังไม่มา







เดินไปซนที่อุโบสถกลางน้ำเก็บภาพธรรมชาติกัน




นั่งนิ่งๆ ให้ธรรมชาติบำบัดจนพอใจก็เห็นทางขึ้นก็ขอขึ้นไปซนสักหน่อย ระหว่างทางก็จะเขียวๆ ลื่นๆ หน่อย




ขึ้นมาถึงจุดแรกกำลังสร้างทางเดินทราบจากการถามแม่อุ๊ยที่กลับจากใส่บาตรว่าทางวัดแม่กำปองจะสร้างพระพุทธรูป เขาวงกต (จะมีพิธีช่วงยี่เป็ง) และพระธาตุเจดีย์



เดินลุยขึ้นด้านบนอีกไม่ไกลมากแต่เริ่มรกขึ้นเรื่อยๆ เพื่อไปชมบ้านแม่กำปองในมุมตรงข้ามกับร้านกาแฟชมนกชมไม้



หมดเวลาซนแล้ว เรานัดรถไว้รอบ 9:20 ต้องรีบกลับมาเก็บกระเป๋า อาบน้ำ กินมื้อเช้า ทางเฮือนอุ้ยจัดข้าวต้มหมูเห็ดหอมกับไข่ลวกไว้ ข้าวต้มอร่อยดี แถมยังนั่งกินท่ามกลางเสียงน้ำไหลกับนกร้องอีกด้วย


พออิ่มแล้วคุณตู่ก็พาแว้นซ์ไปส่งที่จุดขึ้นรถ จากตอนมา 6 คน ขากลับเหลือ 2 คน ค่าโดยสารก็จะถูกเก็บเพิ่มขึ้นเป็นคนละ 200 บาท ตามราคาที่แจ้งไว้ในเพจของรถตู้เลย

จบทริปแม่กำปองด้วยความสุขใจที่เห็นชุมชนไม่เปลี่ยนไปมากจนล้นเหมือนหลายแห่ง ที่พักดีมาก ผู้คนที่แม่กำปองยังน่ารักเหมือนเดิม

ทริปนี้ยังมีอีก 2 แห่ง ตามติดกันได้ที่นี


ติดตามทริปเดินทางอื่นๆ ได้ที่

เพจ: ตะลุยเดี่ยวแบกเป้เที่ยว

IG : prapat / ตะลุยเดี่ยวแบกเป้เที่ยว


ความคิดเห็น